† แค้นฝังรัก – ตอนที่ 10 †
จุนมยอนพูดไม่ออก...
ตัวเขาที่นั่งคร่อมตักคนที่กล้าเอ่ยปากขอกันหน้าด้านๆ
อยากจะจับถาดอุปกรณ์ล้างแผลฟาดใส่หน้าสักป๊าบ
“ไม่ตลก”
“ก็ไม่ได้เอาฮา...ฉันอยากทำจริงๆ อยากทำแค่กับนาย”
ตึก! ตัก!
เหมือนหัวใจกระตุกไปวูบ หูอื้อไปชั่วขณะ จุนมยอนไม่สามารถบังคับตัวเองได้
ครั้นพอจะตั้งท่ายกมือขึ้นตีเจ้าคนหื่นไม่รู้จักเวลาก็ถูกคว้าไว้
อีกทั้งยังถูกอีกมืออ้อมมาคล้องลำคอ กดรั้งให้รับจูบที่แสนเอาแต่ใจของอีกฝ่าย
“อือออ...นาย...อ่ะ-อื้อ!”
จุนมยอนทุบอกคนขี้แกล้งไปหนึ่งครั้งใหญ่ เขาเกือบจะสำลักอยู่แล้วกับวิธีอ้อนที่รุนแรงของเจ้าเด็กนี่
“นะ...ขอทำเถอะ”
ไม่รู้จะพูดบรรยายความรู้สึกอย่างไรดี
จื่อเทาคิดแค่ว่าเขาอยากจะจับอีกฝ่ายมาฟัดให้คุ้มกับสิ่งที่ทำลงไป
สิ่งที่ทำให้หัวใจของเขากลับมาเต้นดั่งคนปกติ สิ่งที่เข้ามาลบล้างสีดำในจิตใจ
...ยิ่งได้รู้ว่าปลอดภัยดีก็ยิ่งดีใจจนอยากจะระบายออกมาสักทาง
แล้วมันก็คงไม่พ้นเรื่องนี้...
“...ฉันให้แค่รอบเดียวนะ”
...แพ้ใจ
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
แต่จุนมยอนกลับพ่ายแพ้แต่โดยดีเพียงถูกอีกฝ่ายจูบ
ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นเรื่องไม่ควรสำหรับคนเจ็บในตอนนี้ ทว่าตัวเขากลับยอมตามใจอย่างที่ไม่เคยให้ใครมาก่อน
กระทั่งกับคริสก็ไม่เคย
จื่อเทายิ้มกว้าง
มันเป็นยิ้มที่ออกมาจากใจที่เกิดจากแรงขับดันจากหัวใจจริงๆ
ไม่ใช่ยิ้มที่เป็นเพียงขยับกล้ามเนื้อตามมารยาทอย่างที่ทำกับพวกหุ้นส่วน
เสื้อยืดของจุนมยอนถูกถอดออก
เผยผิวขาวที่พอมีร่องรอยสีแดงจางหลงเหลืออยู่บ้างจากครั้งล่าสุด ...จะว่าไปตั้งแต่แรกจนถึงตอนนั้น
พวกเขาไม่เคยร่วมรักกันดีๆ เลยสักครั้ง
“อยากใช้ยาไหม?” จื่อเทาถามขณะพรมจูบเบาๆ
ตามผิวเนื้อขาวนุ่มน่ากิน เขารู้ตัวว่าแต่ละครั้งจะรุนแรงแค่ไหน
ดังนั้นถ้ามันช่วยให้บรรเทาความรู้สึกเจ็บออกไปบ้างก็เป็นทางเลือกที่ดี
“ไม่ล่ะ...อื้อ” จุนมยอนพอจะเดาเจตนาได้
แต่เขาไม่อยากตกอยู่ในห้วงอารมณ์นาน ครั้งเดียวก็คือครั้งเดียว
จะคิดดีหรือร้ายก็จะไม่ยอมตามเกมส์อีกเด็ดขาด!
จื่อเทาหมุนตัวเข้าหาเตียง
ดันร่างของจุนมยอนให้เอนลงนอนราบไปกับพื้นเตียงนิ่มๆ โดยไม่ละริมฝีปากไปไหนจากผิวเนื้อน่ากัด
เหมือนขนมอบใหม่ที่ทั้งนุ่มฟูและหอมหวานชวนลิ้มลองไม่รู้เบื่อ
“หอม...เพิ่งอาบน้ำมาใช่ไหม?”
“ใช่สิ-อะ ใครจะเหมือนนายกันล่ะ”
อยากจะว่าต่อมากกว่านี้ แต่ถูกคนด้านบนก้มจูบลงมาอีกหน
“ยังแรงดีอยู่แบบนี้คงได้ครางทั้งคืน”
“นี่ ฉันบอกว่ารอบเดียวนะ”
“หึ ก็คอยดู”
บอกให้ใช้ยาก็ไม่เอา
ทั้งที่มันอาจจะช่วยให้สบายตัวมากกว่านี้แท้ๆ
จื่อเทาไม่ค่อยได้เล้าโลมให้กับใคร ปกติฝ่ายที่เข้าหาก็มักจะอยู่ในอารมณ์ที่พร้อมแล้วเสมอ
พอเขาเริ่มมีอารมณ์ตามไฟที่ถูกจุด เรื่องก็ไปเร็ว
แต่คราวนี้เขาอยากลองทำมันสักครั้ง...กับคนที่ทำให้หัวใจของเขาพองโตคนนี้
จุนมยอนรู้สึกคล้ายโดนกินอยู่
จื่อเทาใช้ริมฝีปากที่แผ่ไออุ่นๆ นั่นทาบทามสร้างรอยบนร่างกายของเขาไปทั่ว
ตั้งแต่หน้าผากลงมาจนถึงแอ่งสะดือ และเริ่มวนแถวท้องน้อย
มันเสียวจนเขาเกร็งไปทั้งตัว
“อ๊ะ! อย่าใช้ฟันสิ!”
แห้วใส่คนที่ลงแรงกับผิวเนื้ออ่อนได้น่าเอาคืน
ผิวเนื้ออ่อนทุกจุดถูกจื่อเทาลงแรงกลั่นแกล้ง
โดยเฉพาะต้นขาด้านในที่ไร้อาภรปกติเพราะจื่อเทาถอดมันเหวี่ยงลงไปกองด้วยกันกับเสื้อยืดก่อนหน้า
พอได้เห็นผิวขาวอมชมพูนั่นแล้วเขายิ่งรู้สึกหอแห้งผากจนอยากจะกัดกินและกลืนมันลงไปให้หมด
ไม่เหลือไว้ให้ใครได้เห็นอีก
สำหรับร่างกายที่เพิ่งผ่านการอาบน้ำมาได้ไม่กี่ชั่วโมง
ย่อมให้ความรู้สึกที่ดีกว่า แต่อาจจะไม่เป็นแบบนั้นเสมอไปถ้าใครคนนั้นคือจุนมยอน
“อา...สวยะมัด” พอยืดตัวขึ้นมองดูผลงานของตัวเองก็รู้สึกภูมิใจแปลกๆ
ทั้งรอยแสดงความเป็นเจ้าของ และการได้ทำให้อีกฝ่ายนอนหอบกระเส่า
กัดริมฝีปากได้น่ารังแกที่สุด
“อะ-อื้อออ” จุนมยอนหลับตาแน่น
ไม่ใช่เพราะเจ็บปวดจากปลายนิ้วที่แทรกเข้ามาโดยไม่บอกกล่าวนัก
แต่เขาไม่กล้าที่จะมองหน้าของคนที่โน้มตัวลงมาใกล้จนปลายจมูกแทบจะชนกัน
“...ตัวเล็ก อ้าปากหน่อย”
ทั้งที่ไม่ได้โดนยาแท้ๆ
แต่จุนมยอนกลับยอมทำตามอย่างว่าง่ายกับเสียงทุ้มที่เอ่ยสั่งคลอเคลียใกล้ใบหู
ลมหายใจที่เป่ารดกระตุ้นกระแสบางอย่างแล่นวิ่งสวนกับสัมผัสด้านล่างจนตีรวนไปหมด
จื่อเทางับกลีบปากล่างที่ถูกเจ้าของใช้ฟันขบกัดจนห่อเลือด
ก่อนจะค่อยๆ สอดลิ้นแทรกเข้าไปในโพรงปากของอีกฝ่ายที่ยอมอนุญาตให้เขาลุกล้ำเข้าไป
เริ่มแรกนั้นนุ่มนวล ออดอ้อน
ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรง และเอาแต่ใจ จุนมยอนหลับตาแน่น
สองมือยกขึ้นเกาะแผ่นหลังที่มีผ้าพันแผลพันไว้เป็นที่ยึดเกาะ
ลงแรงเกินจนลืมไปว่าอาจทำให้ปากแผลใต้ผืนผ้านั่นเปิดออก
ปลายลิ้นร้อนไล่ตวัดกลั่นแกล้งให้จนมุม
ความฉ่ำแฉะในโพรงปากทำให้จุนมยอนจำต้องกลืนน้ำลายที่ผสมกันจนไม่รู้ว่าเป็นของใครบาง
มันวาบหวามเกินกว่าจะยอมรับ
จื่อเทาถอนจูบออก
ทว่าก็ยังคลอเคลียอยู่ที่ใบหน้าของจุนมยอน
ไม่ว่าจะแก้มน่ากัดหรือแถวใบหูที่สามารถเรียกเสียงครางหวานๆ ได้อีก
แต่เขาก็ไม่ละเลยสิ่งที่ต้องกระตุ้นเป็นที่สุด
“อะ-ฮะ! นี่...อ๊า ช้าหน่อย!”
จุนมยอนกลั้นใจบอกคนที่เร่งจังหวะการขยับมือจนรู้สึกได้
แต่จื่อเทาไม่ฟัง
และนอกจากจะไม่ฟังแล้วเขายังขู่คนที่ขยับดิ้นรนที่จะหนีจากสัมผัสด้วย
“ถ้าทำฉันเจ็บกว่าเดิมจะเพิ่มรอบนะ”
คำขู่ได้ผล เพราะคำนวณอย่างไรจุนมยอนก็มีแต่เสียกับเสีย
โดนรังแกอย่างหนักไม่พอยังต้องมาเหนื่อยดูแลเจ้าคนเอาแต่ใจต่ออีก
เหนื่อยเป็นทบเท่าถ้าต้องเจอกับอะไรแบบนี้วนเวียนไม่รู้จบ
จุนมยอนได้แต่เก็บความแค้นครั้งนี้ไว้
มือที่ตั้งใจจะยกขึ้นมาห้ามปรามก็ต้องย้ายไปหาที่เกาะที่อื่น
ก็ไม่พ้นผ้าปูเตียงที่ยับย่นจนหลุดออกมาจากการคลุมแล้วด้วยซ้ำ
แก่นกายน่ารักตึงเครียดตามแรงขับดันที่กระตุ้นเร้าที่ช่องทางด้านหลัง
แต่จื่อเทาก็ยังอยากแกล้งอีกฝ่ายต่อ จึงทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้ทำให้ใคร
“นะ-นาย จะบ้าเหรอ! อ๊า!!” ห้ามไม่ทันแล้ว
ริมฝีปากร้อนครอบคลุมแก่นกายของเขาไปแล้ว
ข้างในมันอุ่นและเปียกแฉะ
ศีรษะของจื่อเทาขยับขึ้นลงช้าๆ ทว่าสายตากลับจ้องมองเจ้าของร่างที่เผลอสบตาจนเรียกเลือดมากองที่หน้าจำนวนมาก
เห่อร้อนจนแทบไหม้ เขินอายเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้
“อะ...อะ...อะ”
ร่างขาวกระตุกเป็นจังหวะตามการขยับปากของจื่อเทา
เรียวขาที่ถูกจับตั้งชันในลักษณะของตัวเอ็มสั่นเกร็ง ปลายนิ้มเท้าจิกเข้าหากัน
ตอบสนองต่อประสาทที่โต้ตอบทางกายภาพ
จุนมยอนแทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำตั้งแต่ที่หยุดนิ่งสตาร์ฟตัวเองไว้แบบนั้น
จนกระทั่งจื่อเทาละริมฝีปากไป ไม่ได้ช่วยให้เสร็จสม
แต่ก็เพื่อทำให้มีอารมณ์ร่วมถึงที่สุด
พอสุกงอมได้ที่ก็ไม่ลืมที่จะจูบเบาที่ปลายหนึ่งครั้ง
เผื่อละออกมาปลดปราการของตัวเองออก ...และสอดใส่เข้าไปทันที!
“อึ๊ก!!”
“ซี๊ดด!!”
เกร็งจนอ้าปากไร้เสียงตัวสั่น
ความคับพองของท่อนเนื้อร้อนที่สอดแทรกเข้ามากะทันหัน จุกและเจ็บไปหมด
แต่ก็มีความเสียวซ่านแล่นปราดไปทั่ว ถูกโจมตีมั่วซั่วไปหมด
กายขาวบิดเกร็งอย่างทรมาน
“อา...ตัวเล็ก...ซี๊ด...ผ่อนแรงหน่อย” ไม่อยากทำให้เจ็บมากเลยต้องขอความร่วมมืดดีๆ
แม้ว่าใจจริงเขาอยากจะกระแทกเข้าไปให้สุดทีเดียว ไม่ใช่ค้างคาที่ครึ่งทางแบบนี้
“อะ...อะ”
แต่จุนมยอนกลับเกร็งหนักจนไม่รับรู้อะไรแล้ว
จื่อเทาได้แต่กัดฟัน
เขารวบตัวของอีกฝ่ายขึ้นมาให้อยู่ในท่านั่งตักอีกครั้ง โดยร่างกายของพวกเขายังเชื่อมถึงกันอยู่
และแรงน้วมถ่วงก็ช่วยให้ท่อนเนื้อร้ายของเขาเข้าไปสำรวจด้สนในได้จนสุด
“อา...”
จื่อเทาไม่ได้ขยับเลยนั่นถือว่าปราณีที่สุด
แต่ช่วยทำให้ร่างขาวคุ้นชินด้วยการนวดคลายเส้นที่เอวและช่วงสะโพก
ออกแรงบังคับให้โยกไปมาเล็กน้อย ทำให้ผนังด้านในคลายตัวพอสมควร
จากนั้นจื่อเทาก็ผลักจุนมยอนให้นอนกลับลงไปโดยมีตนเองตามคร่อมติดๆ
แขนแข็งแรงช้อนใต้ขาพับทั้งสองข้าง
ดึงรั้งให้สะโพกงอนลอยเหนือพื้นเตียงเล็กน้อย ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ก่อนจะเริ่มขยับอย่างไม่ปราณีอีกต่อไป
“อ๊า!! อ๊า!!”
ทั้งแรงที่โถมใส่และน้ำหนักที่เน้นลงมา
กระตุ้นเร้าให้จุนมยอนทรมานเป็นทบเท่า สมองว่างเปล่าคิดอะไรไม่ออก
ได้แต่ร้องครางระบายความเสียวซ่านและความเจ็บปวด แม้หูจะได้ยินเสียงเนื้อกระทบกัน
ก็ไม่อาจประมวลผลอะไรได้อีก สองมือปัดป่ายไปมาราวกับหาที่พึ่งพิงไม่ได้
“อา...สุดยอด อึก...ตัวเล็ก มันดีมากเลย...ดีที่ได้เจอกันอีก”
มันออกมาจากใจ
จื่อเทาไม่อาจพูดได้สวยหรูดั่งพระเอกในนิยายหรือผู้ชายที่ดีพร้อมสักคนบนโลก
แต่นี่ก็คือสิ่งที่เขาอยากบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้
ให้รู้ว่าตนนั้นรู้สึกอย่างไรหลังรอดพ้นจากความตายมา
“อ้า อะ-อื้มมม”
พอเห็นริมฝีปากแดงเจ่อลอยล่ออยู่ก็อดใจไม่ไหวที่จะกดจูบลงไปอีกครั้ง
และอีกครั้ง จุนมยอนเองพอรู้ตัวว่ามีสิ่งที่ทาบทามตัวลงมาใกล้มือก็คว้าไว้อัตโนมัติ
เกาะเกี่ยวลงแรงระบายความเสียวซ่านทั้งหมดที่แทบจะล้นทะลักภายในกายออกมา
“มะ-ไม่ไหว จะถึง-ฮรึก!!” คนใต้ร่างสั่นเกร็งคล้าคนชักเมื่อฝ่ามือของจื่อเทาโฉบเข้ามาคว้าบีบส่วนปลายของแก่นกายตัวเองไว้แน่น
“อย่าเพิ่งไปก่อนสิ”
“ไม่...อ๊า...ปล่อย”
“ไม่ได้ ต้องเสร็จไปด้วยกันสิ”
ใช่ว่ามีแค่จุนมยอนคนเดียวที่รู้ทันเกมส์
จื่อเทาเองก็รู้เหมือนกันว่าถ้าชิงให้เสร็จก่อน คนตัวขาวอาจหาข้อแก้ต่างชิงหนีขึ้นสวรรค์ไปเพียงฝ่ายเดียว
...ไหนๆ ก็ไม่ได้ใช้ยาช่วยให้สบายกันทั้งสองฝ่าย ก็ต้องเป็นแบบนี้ล่ะ
ความอดทนของเขาสามารถทำได้ติดกันสามชั่วโมงเสียด้วย
:)
“ไม่นะ..หะ...อิ-ย๊า!!” จุนมยอนทรงตัวไม่อยู่
มือไม้อ่อนไปหมดเมื่อถูกจับพลิกตัวทั้งที่ยังเชื่อมต่อความลึกซึ้งกันอยู่
แถมยังไม่หยุดจังหวะการขยับอีก
สุขจนแทบจะสำลัก
แต่ก็ทรมานเหลือทนกับการที่ไม่ได้ปลดปล่อย
มือขาวพยายามจะเอื้อมไปแกะมือของจื่อเทาออก
ทว่ายิ่งทำแรงบีบเค้นส่วนปลายก็ยิ่งเพิ่ม
แรงท่วงท่าจังหวะจากช่องทางด้านหลังก็หนักหน่วงกว่าเดิมราวกับม้าพยศที่ไม่ยอมสงบลงง่ายๆ
จะหนึ่งรอบหรือกี่รอบ จุนมยอนก็พ่ายแพ้อยู่ดี...
จื่อเทายิ้มเย็นในใจ ไม่ใช่การดูถูก
แต่เอ็นดูเจ้าลูกกระต่ายน้อยที่คิดสั้นเลือกหนทางรังแกตัวเองได้น่าเอ็นดูเหลือเกิน
บางทีแบบนี้ก็คุ้มดีเหมือนกัน
เสียงความเร็วที่เนื้อผิวต่างสีกระทบกันยังไม่หยุดลงง่ายๆ
เช่นเดียวกับจุนมยอนที่ร่างกายกระตุกเกร็งหลายต่อหลายครั้ง
แต่กลับไม่สามารถปลดปล่อยได้เต็มที่
แม้จะพอมีเมือกไหลเล็ดรอดออกมาจากง่ามนิ้วของจื่อเทาบ้าง แต่มันก็ยังไม่พอต่ออารมณ์ที่ปลุกปั่นตีรวนภายในท้องน้อยของเขา
สร้างความปวดหน่วงจนส่งผลให้ร่างกายอ่อนเปลี้ยไปหมด
...เนินนาน ทั้งความสุขที่ล้นทะลัก และความลุ่มหลงที่เกินจะบรรยาย
ไม่ว่าจะเป็นยังไงในอนาคต
ทั้งคู่ต่างก็ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าต้องการอีกฝ่ายมากเพียงใด
“แฮ่ก...อืมมม...ซี๊ด! อึก!”
“อ้า...ฮา”
ในที่สุดก็มาถึงปลายทางแห่งอารมณ์
หยาดความใคร่ทุกหยดทุกปลอดเข้าในกายขาว
ให้รับรู้ทุกอณูถึงความรู้สึกทั้งหมดราวสามชั่วโมงที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับแก่นกายเครียดแดงช้ำที่ถูกรินรอนอิสระมานาน
ปลดปล่อยคราบของเหลวจำนวนมากออกมาเปรอะเปื้อนผ้าปูและตนเองเต็มไปหมด
“ตัวเล็ก...อยู่กับฉันนะ”
จุนมยอนไม่รับรู้อะไรแล้ว
สติของเขาถูกฉุดรั้งตั้งแต่ได้รับอิสรภาพ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกร่างกายที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อนั่นซบลงมากอดด้วยความหวงแหนแต่อย่างใด
~*~
กลับไปเม้นกันด้วยนะจ๊ะ คลิก